กลยุทธ์ Digital Transformation กุญแจความสำเร็จธุรกิจยุคใหม่

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ธุรกิจต่าง ๆ ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลในการปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น กลยุทธ์ Digital Transformation หรือ กลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล จึงกลายเป็นคำตอบสำคัญที่องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกต่างแสวงหาและนำมาปรับใช้ เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ให้ได้มากที่สุด 

กลยุทธ์ Digital Transformation คืออะไร ? แล้วทำไมคนทำธุรกิจในยุคนี้ควรต้องทำความรู้จัก ไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย !

กลยุทธ์ Digital Transformation คืออะไร ?

กลยุทธ์ Digital Transformation หรือ กลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล หมายถึง แนวทางที่องค์กรใช้เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล โดยมีเป้าหมายหลักคือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนการเติบโต และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลง ทั้งวัฒนธรรมองค์กร กระบวนการทำงาน โมเดลธุรกิจ สินค้าและบริการ ช่องทางการขาย รวมถึงการใช้ประโยชน์จากข้อมูลต่าง ๆ ด้วย 

องค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์ Digital Transformation

แก่นหลักของ Digital Transformation คือการเปลี่ยนแปลงองค์กรให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล โดยมุ่งเน้นไปที่การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ ซึ่งจะประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก ดังนี้

1. การทำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้

การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในองค์กร ไม่ว่าจะเป็น Cloud Computing, AI, IoT, Big Data, Machine Learning, Robotics หรือ Automation เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน รวมถึงการพัฒนาสินค้า บริการ และช่องทางการขายรูปแบบใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัล

2. การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร

การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรให้เอื้อต่อการสนับสนุนนวัตกรรม การเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ รวมถึงการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยองค์กรต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการทำงาน สร้างบรรยากาศที่กระตุ้นให้พนักงานพร้อมเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

3. การพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่

การพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ให้สอดคล้องกับบริบทยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงโมเดลเดิม หรือสร้างโมเดลธุรกิจแบบใหม่ขึ้นมา โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าหรือบริการ

ประโยชน์ของกลยุทธ์ Digital Transformation ต่อการทำธุรกิจมีอะไรบ้าง ?

การนำกลยุทธ์ Digital Transformation มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ มีประโยชน์ต่อการเติบโตในหลายด้าน เช่น

• เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน : ช่วยในการทำงาน ส่งผลให้กระบวนการทำงานมีความรวดเร็ว ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ประหยัดเวลาและต้นทุนในการดำเนินงานลงได้
• ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ : ช่วยให้เข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ พัฒนาสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัล รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขายและสร้างรายได้เพิ่มเติมบนแพลตฟอร์มออนไลน์
• สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า : สร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลได้มากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น Netflix ออกแพ็กเกจให้บริการรับชมภาพยนตร์และซีรีส์ผ่านสมาร์ตโฟนในราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมหาศาลถึงปีละ 20,000 ล้านดอลลาร์
• สะสมฐานข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับองค์กรและลูกค้าได้มากขึ้น : สามารถนำข้อมูลที่ได้จากการจัดเก็บผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลมาวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจลูกค้า ทำให้สามารถกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจ และค้นหาโอกาสในการสร้างผลกำไรได้มากขึ้น
• เพิ่มความคล่องตัวขององค์กร : ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยให้สร้างเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อติดตามแนวโน้มต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นการสร้างจุดแข็งในการแข่งกับองค์กรอื่น ๆ ได้
• สร้างโอกาสและประโยชน์อื่น ๆ : ช่วยสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ทันสมัย ดึงดูดนักลงทุนและบุคลากรที่มีความสามารถ ตลอดจนการค้นพบโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลที่องค์กรมีอยู่

กลยุทธ์ Digital Transformation เหมาะกับธุรกิจประเภทใดบ้าง ?

กลยุทธ์ Digital Transformation เหมาะกับธุรกิจทุกประเภท โดยแต่ละธุรกิจสามารถปรับใช้กลยุทธ์นี้ให้เหมาะสมกับบริบทและความต้องการของตนเองได้ ตัวอย่างธุรกิจที่เหมาะกับกลยุทธ์ Digital Transformation มีดังนี้ 

• ธุรกิจค้าปลีก : เช่น นำระบบ E-commerce มาขายสินค้าออนไลน์ พัฒนาแอปพลิเคชันมือถือเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น รวมถึงการใช้เทคโนโลยีช่วยติดตามสินค้า และใช้แชตบอตตอบคำถามลูกค้า
• ธุรกิจบริการ : เช่น การพัฒนาแอปฯ สำหรับสั่งอาหารเพื่อความสะดวกของลูกค้า ใช้แชตบอตช่วยจองคิวและตอบคำถามลูกค้า วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับปรุงและพัฒนาบริการ รวมถึงการนำ AI มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า
• ธุรกิจการเงิน : เช่น นำ Mobile Banking มาใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถือได้สะดวกยิ่งขึ้น พัฒนาแอปฯ สำหรับลงทุน นำเทคโนโลยี Blockchain มาพัฒนาบริการด้านการเงิน
• ภาคการผลิต : เช่น นำ IoT มาใช้ติดตามและควบคุมการผลิต ใช้ Big Data วิเคราะห์ข้อมูลการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ พัฒนาสินค้าใหม่และสร้างโมเดลธุรกิจพื้นฐานของเทคโนโลยีดิจิทัล
• ธุรกิจสุขภาพ : เช่น นำ Telemedicine (การแพทย์ทางไกล) มาให้บริการทางการแพทย์ในแบบออนไลน์

เจาะลึก 5 กลยุทธ์ Digital Transformation ที่จะพลิกโฉมธุรกิจของคุณ

ในยุคที่การแข่งขันในโลกดิจิทัลรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ การนำเอากลยุทธ์ Digital Transformation มาประยุกต์ใช้ถือเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เรามี 5 กลยุทธ์ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้มาแนะนำกัน 

1. มุ่งเน้นไปที่ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-Centric)

ทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง โดยการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าเพื่อนำมาพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงใจ นอกจากนี้ ยังต้องมอบประสบการณ์ที่ดีและตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าด้วย 

2. ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรสู่วัฒนธรรมดิจิทัล

องค์กรที่ประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล จำเป็นต้องมีวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลง โดยปลูกฝังวัฒนธรรมการเรียนรู้ สนับสนุนให้พนักงานคิดริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ มุ่งเน้นผลลัพธ์ และให้โอกาสในการทำงานร่วมกันเป็นทีม

3. พัฒนาทักษะดิจิทัลของพนักงาน

ทรัพยากรมนุษย์ถือเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ ดังนั้นจึงต้องลงทุนด้านการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และทักษะด้านดิจิทัล สนับสนุนให้พวกเขาได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอ พร้อมทั้งสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้และส่งเสริมให้พวกเขานำทักษะดิจิทัลมาใช้ในการทำงาน

4. ลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลที่เหมาะสม

การลงทุนในเทคโนโลยีต่าง ๆ ถือเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ Digital Transformation โดยต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ เลือกเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจ วางแผนการนำมาใช้งาน พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับ และไม่ลืมให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูล

5. วิเคราะห์ข้อมูลและนำข้อมูลเชิงลึกมาใช้

การเก็บรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายแหล่งและนำมาวิเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึก จะช่วยให้สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมากำหนดกลยุทธ์และนโยบายในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการติดตามผลและประเมินผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาปรับปรุงกลยุทธ์และนโยบายให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลาด้วย 

ตัวอย่างกรณีศึกษาองค์กรที่ประสบความสำเร็จจาก Digital Transformation

• Netflix : ประสบความสำเร็จจากการมุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้ Netflix ยังนำระบบ Recommendation Engine ด้วย AI มาวิเคราะห์และแนะนำเนื้อหาที่ลูกค้าชื่นชอบ
• Airbnb : ประสบความสำเร็จจากการนำเทคโนโลยีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้งานง่ายมาใช้ สร้าง Community ของผู้ใช้งาน และริเริ่มโมเดลธุรกิจใหม่ให้เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อกับผู้ต้องการห้องพักได้มากขึ้น
• Alibaba : ประสบความสำเร็จจากการมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ที่สะดวก โดยพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีระบบชำระเงินและโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสร้าง Ecosystem ครบวงจรโดยเชื่อมโยงธุรกิจ ลูกค้า และผู้ให้บริการเข้าด้วยกัน

กลยุทธ์ Digital Transformation คือกุญแจสำคัญที่ช่วยปลดล็อกโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และพลิกโฉมธุรกิจให้ก้าวทันนวัตกรรม ทั้งนี้ E-Commerce ก็เป็นหนึ่งในช่องทางดิจิทัลสำคัญที่องค์กรจำเป็นต้องนำมาใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของ Digital Transformation หากธุรกิจของคุณกำลังมองหาโซลูชันด้านการสร้างกลยุทธ์ดิจิทัล ที่ Shopstack เรามีผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์พร้อมให้คำแนะนำ ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาได้เลย !

‍

ข้อมูลอ้างอิง

1. Digital Transformation คืออะไร สำคัญอย่างไร. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567. จาก https://teachme-biz.com/blog/digital-transformation/.
2. กลยุทธ์สู่ Digital Transformation เพื่อไปถึงเป้าหมาย. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567. จาก https://teachme-biz.com/blog/digital-transformation-strategy/.